วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

หลวงปู่ทวดพิมพ์๕ฉเนื้อทองคำ

หลวงปู่ทวดพิมพ์๕ฉเนื้อทองคำพระองค์ชายกลางประธานสร้าง

หลวงปู่ทวดพิมพ์๕ฉเนื้อทองคำพระองค์ชายกลางประธานสร้าง

หลวงปู่ทวดพิมพ์๕ฉเนื้อทองคำพระองค์ชายกลาง องค์ประธานผู้จัดสร้าง ปี ๒๕๐๕ : พระองครูเรื่องและภาพ ไตรเทพ ไกรงู

            จากหลักฐานประวัติการจัดสร้างพระหลวงพ่อทวด พ.ศ.๒๕๐๕ พบว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร หรือ พระองค์ชายกลาง ทรงรู้จักคุ้นเคยและเป็นมิตรที่ดีต่อกันกับนายอนันต์ คณานุรักษ์ ผู้ร่วมจัดสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก ปี ๒๔๙๗ โดยนายอนันต์ ได้มอบพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่ ซึ่งในภายหลังเรียกว่า "พิมพ์กรรมการ" ให้ "องค์ชายกลาง" ในคราวที่ได้เสด็จเยี่ยมเยือนนายอนันต์ ที่ จ.ปัตตานี

            หลังจากนั้น "องค์ชายกลาง" ได้เสด็จต่อไปยัง จ.ตรัง โดยทางรถยนต์ ปรากฏว่าได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นที่เขาพับผ้า เขตติดต่อระหว่าง จ.พัทลุง กับ จ.ตรัง โดยที่ "องค์ชายกลาง" ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งขณะนั้นพระองค์ทรงมีพระเครื่องหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ อยู่ในกระเป๋าเสื้อเพียงองค์เดียวเท่านั้น

            จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ "องค์ชายกลาง" เกิดความศรัทธาเลื่อมใสในองค์สมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นอย่างยิ่ง และอยากที่จะสนองพระคุณหลวงพ่อทวด โดยการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง จึงได้เสด็จพร้อมกับนายอนันต์ คณานุรักษ์ เข้ากราบนมัสการและแจ้งความจำนงต่อพระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ในสมัยนั้น

            ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองที่พระอาจารย์ทิม กำลังเตรียมการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด ให้ครบจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ ตามบัญชาขององค์สมเด็จหลวงพ่อทวด ที่ได้กำหนดไว้ในการจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน ครั้งแรก ปี ๒๔๙๗ ซึ่งได้สร้างไว้เพียง ๖๔,๐๐๐ องค์ เนื่องจากเวลามีไม่เพียงพอ ได้ฤกษ์ปลุกเสกเสียก่อน จึงยังขาดจำนวนพระที่ต้องสร้างเพิ่มอยู่อีก ๒๐,๐๐๐ องค์

            ในวาระนั้น ซึ่งตรงกับ พ.ศ. ๒๕๐๕ จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะสร้างพระเครื่องจำนวนที่เหลือดังกล่าวให้ครบถ้วน ท่านพระอาจารย์ทิมจึงได้ทำพิธีขออนุญาตต่อดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เพื่อจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

            ดังนั้น "องค์ชายกลาง" จึงขอรับเป็นประธานอุปถัมภ์ ในการจัดสร้าง พระหลวงพ่อทวด ครั้งนี้ โดยได้ให้ช่างแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ ให้เหมือนกับพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่ (พิมพ์กรรมการ) อันเป็นองค์เดียวกับที่พระองค์ทรงประสบกับปาฏิหาริย์ที่เขาพับผ้า จ.ตรัง  จึงเป็นที่มาของการจัดสร้าง พระเครื่องหลวงพ่อทวด รุ่นหลังเตารีด ปี ๒๕๐๕ อันโด่งดังไปทั่วเมืองไทยในขณะนี้

            การจัดสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวด ปี ๒๕๐๕ ครั้งนั้น มี ๓ แบบพิมพ์ ที่ "พระองค์ชายกลาง" ทรงเป็นองค์ประธานการจัดสร้าง คือ ๑.พระกริ่ง รุ่นพระองค์เจ้าเฉลิมพลฯจำนวน ๑๐๘ องค์ ๒.พระหลวงพ่อทวด หล่อโบราณ รุ่นหลังเตารีด ๒๐,๐๐๐ องค์ (พิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก) ๓.เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์กลีบบัว หลังหนังสือ ๕ แถว

            สำหรับภาพพระองค์ครูฉบับนี้เป็นพระหลวงปู่ทวดเตารีดใหญ่พิมพ์ A เนื้อทองคำ ๕ ฉ ปี ๒๕๐๕ ลายเซ็นพระองค์เจ้าเฉลิมพล ของนายสุขธรรม ปานศรี หรือที่คนในวงการรถยนต์รู้จักในชื่อ “เฮียกุ่ย” นักสะสมพระหลวงพ่อทวดมานานกว่า ๑๐ ปี

            พระหลวงปู่ทวดเตารีดใหญ่พิมพ์ A เนื้อทองคำ ๕ ฉ มีการตอกโค้ด "ฉ" ไว้ ๕ ตัว คือ ด้านหน้ามี ๓ ฉ เหนือศีรษะหลวงพ่อทวด ตอกเหลือไหล่สองข้าง และด้านหลัง ส่วน ด้านหลังมี ๒ ฉ โดยตอกไว้ด้านล่างของลายเซ็น "เฉลิมพล" อันเป็นพระนามย่อของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร องค์ประธานผู้จัดสร้างในครั้งนั้น

พระหลวงปู่ทวดบล็อคหลังตัวหนังสือ (รุ่นแรก/พิมพ์ใหญ่บล็อคตัว.ท-หลังเสาอากาศ/ปีพ.ศ.2505)

ด้านหน้า พระหลวงปู่ทวดบล็อคหลังตัวหนังสือ
ด้านหน้า พระหลวงปู่ทวดบล็อคหลังตัวหนังสือ


พระหลวงปู่ทวดบล็อคหลังตัวหนังสือ (รุ่นแรก/พิมพ์ใหญ่บล็อคตัว.ท-หลังเสาอากศ-ยอดนิยม/ปีพ.ศ.2505) เนื้อทองเหลืองรมดำ สภาพสวยสมบูรณ์แบบมากๆผิวเดิมๆ(คม/ชัด/ลึก)เนื้อทองเหลืองเก่าจัด รมดำ เดิมแห้งสนิทดูง่ายสุดๆครับ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี องค์ที่ผมนำมาเสนอแก่ท่านสมาชิกทุกท่านองค์นี้เป็นพระหลวงปู่ทวดบล็อคหลังตัวหนังสือ(รุ่นแรก/พิมพ์ใหญ่บล็อคตัว.ท-หลังเสาอากศ-ยอดนิยม/เนื้อทองเหลือง รมดำ )ที่..หลวงปู่ทิม อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้..ท่านได้สร้างและทำการปลุกเสกเอาไว้ในปีพ.ศ.2505ครับ..พระหลวงปู่ทวดบล็อคหลังตัวหนังสือ(รุ่นแรก/ทุกพิมพ์)ปัจจุบันจัดเป็นพระยอดนิยมระดับประเทศที่วงการพระเครื่องโดยทั่วไปให้การยอมรับใน(พุทธคุณ)และยังเป็นที่ต้องการของท่านนักสะสมกันเป็นจำนวนมากอีกด้วยครับ..ราคาขององค์พระก็ขยับตัวสูงขึ้นตลอดเวลา(ไม่มีคำว่าหยุดนิ่งอยู่กับที่)ครับ..ส่วนสาเหตุที่ทำให้พระหลวงพ่อทวด(บล็อคหลังตัวหนังสือ/ปีพ.ศ.2505)ได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายก็เพราะว่าพระของท่านนั้นเป็นพระที่เปี่ยมล้นไปด้วยพุทธคุณที่สูงมากๆนั่นเองครับ..พุทธคุณของท่านพร้อมที่จะถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นเป็นประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆแก่ผู้ที่ใช้พระของท่าน(ทุกเมื่อ-ทุกที่-ทุกเวลา-ทุกโอกาส)ครับ..พุทธคุณของท่านเด่นมากทางด้าน(เมตตามหานิยม-เมตตค้าขาย-นิรันตราย-แคล้วคลาดปลอดภัย-โดยเฉพาะทางด้านรถยนต์)เป็นเลิศ

วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

หลวงปู่ทวดปี 24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้

หลวงปู่ทวดปี 24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้


หลวงปู่ทวดปี 24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้
 หลวงปู่ทวดปี 24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้

หลวงปู่ทวดปี 24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้
หลวงปู่ทวดปี 24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้

หลวงปู่ทวดปี24 พิมพ์กลาง เนื้อว่าน พิมพ์นิยม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ถือว่าเป็นพระเครื่องเนื้อว่านรุ่นที่ 3 ของวัดช้างให้ เป็นรุ่นสองที่ผ่านพิธีการปลุกเสกครบสูตรเท่ารุ่นแรกในปี พ.ศ.2497 จัดสร้างขึ้นโดย พระครูอนุกูลปริยัตกิจ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างให้ มวลสารที่ใช้ในการสร้างประกอบด้วยว่านและผงที่เหลือจากการสร้างพระเนื้อว่านปี พ.ศ.2497 และดินกากยายักษ์ โดยมีเกจิอาจารย์ร่วมปลุกเสกด้วยอีกมากมาย พระรุ่นนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2522 เมื่อสร้างเสร็จได้เปิดให้เช่าบูชาแบบไม่มีกล่อง ต่อมาในปี พ.ศ.2524 ทางวัดได้จัดทำกล่องพลาสติกเพื่อบรรจุพระ ทำให้กล่องพิมพ์นั้นพิมพ์เป็นปี พ.ศ.2524

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

หลวงปู่ทวด รุ่นปาฏิหาริย์ทรายทอง วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ

หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นปาฏิหาริย์ทรายทอง วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ


หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน รุ่นปาฏิหาริย์ทรายทอง วัดห้วยมงคล

หลวงปู่ทวด หรือสมเด็จพะโคะ เกิดที่อำเภอสทิงพระ จ.สงขลา เมื่อท่านได้มรณะภาพ ท่านได้สั่งเสียลูกศิษย์ได้นำพระศพไปเก็บที่ วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ โดยมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวดทั้งหลายล้วนแต่เป็นเกจิอาจารย์ของวัดช้างให้ โดยวัตถุมงคลที่สำคัญของหลวงปู่ทวด ได้แก่ พระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นพระเครื่องรุ่นแรกของหลวงปู่ทวด โดยจัดสร้างเมื่อ พ.ศ. 2497 และวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวด ที่เก็บไว้ที่วัดพะโคะ จ.สงขลา คือ ลูกแก้ววิเศษ ที่พญางูใหญ่ได้คายไว้ให้ท่านตอนท่านเป็นทารก และรอยเท้าของท่านที่ท่านเหยียบประทับไว้บนแท่งหินบนหน้าผา ที่วัดพะโคะ

วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2558

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

หลวงปู่ทวด
หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

                 สมเด็จเจ้าพะโคะ หรือ หลวงปู่ทวด เป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิ ปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญาว่า “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ประวัติอันพิสดารของท่านมีเล่าสืบกันมาไม่รู้จบสิ้น ยิ่งนานวันยิ่งซับซ้อนและขยายวงกว้างออกไปกลายเป็นความเชื่อความศรัทธาอย่างฝังใจ

           หลวงปู่ทวด เป็นบุตรของนายหู นางจันทร์ ซึ่งเป็นทาสในเรือนเบี้ย (ทาสทำงานใช้หนี้) ของเศรษฐีปานเกิดในรัชกาลของสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช เมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2125 ณ บ้านสวนจันทร์ (บ้านเลียบ) ต.ดีหลวง (ปัจจุบันเป็นตำบลชุมพล) อ.สทิงพระ(จะทิ้งพระ) จ.สงขลา แรกเกิดมีชื่อว่าปู ขณะท่านเกิดมีเหตุอัศจรรย์คือเกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าแผ่นดินสะเทือนเลื่อนลั่น เสมือนหนึ่งว่ามีผู้มีบุญญาธิการมาเกิด เมื่อตัดรกจากสายสะดือแล้วนายหูบิดาของท่านก็นำรกของท่านไปฝังไว้ที่โคนต้น เลียบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ต้นเลียบในปัจจุบัน

           เมื่อท่านเกิดมาแล้วก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นกับท่านเรื่อยมา เป็นต้นว่า ขณะที่ท่านอยู่ในวัยแบเบาะในช่วงฤดูเกี่ยวข้าวบิดามารดาของท่านต้องออกไป เกี่ยวข้าวที่กลางทุ่งนาซึ่งเป็นนาของเศรษฐีปาน ซึ่งท้องนาแห่งนั้นห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นาแห่งนั้นมีดงตาลและมะเม่าเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันตั้งเป็นสำนักสงฆ์ชื่อนาเปล ในสมัยนั้นจึงมีสัตว์ป่าชุกชุมพอสมควร บิดามารดาของท่านจึงผูกเปลของท่านซึ่งเป็นเปลผ้าไว้กับต้นมะเม่าสองต้นและก็ ได้เกี่ยวข้าวอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนั้น พอได้ระยะเวลาที่นางจันทร์ต้องให้นมลูก นางจันทร์จึงเดินมาที่ที่ปลูกเปลของลูกน้อย และก็เห็นงูจงอางตัวใหญ่หรืองูบองหลาที่ชาวภาคใต้เรียกกันพันที่รอบเปล นางจันทร์เห็นแล้วตกใจเป็นอันมากจึงเรียกนายหูซึ่งอยู่ไม่ไกลนักมาดูและช่วย ไล่งูจงอางนั้น แต่งูจงอางนั้นก็ไม่ไปไหน นายหูและนางจันทร์จึงตั้งสัตยาธิฐานว่าขออย่าให้งูนั้นทำร้ายลูกน้อยเลย ไม่นานนักงูจงอางนั้นก็คลายวงรัดออกและเลื้อยหายไปในป่านายหูและนางจันทร์ จึงเข้าไปดูลูกน้อยเห็นว่ายังหลับอยู่และไม่เป็นอันตรายใด ๆ และปรากฏว่ามีเมือกแก้วขนาดใหญ่ที่งูจงอางคลายไว้อยู่บนอกเด็กชายปูนั้น เมือกแก้วนั้นมีแสงแวววาวและต่อมาได้แข็งตัวเป็นลูกแก้ว ปัจจุบันได้ประดิษฐานที่วัดพะโคะ เมื่อเศรษฐีปานทราบเรื่องเข้าก็บีบบังคับขอลูกแก้วเอาจากนายหูและนางจันทร์ บิดามารดาของท่านจึงจำต้องยอมให้ลูกแก้วนั้นแก่เศรษฐีปานซึ่งเป็นนายเงิน แต่ลูกแก้วนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิประจำตัวท่าน เมื่อเศรษฐีปานเอาลูกแก้วไปแล้วก็เกิดเภทภัยในครอบครัวเกิดการเจ็บป่วยกัน บ่อย และมีฐานะยากจนลง เศรษฐีปานจึงได้เอาลูกแก้วมาคืนและขอขมาเด็กชายปู และยกหนี้สินให้แก่นายหูและนางจันทร์ ทั้งสองจึงพ้นจากการเป็นทาสและต่อมาก็มีฐานะดีขึ้น ๆ ส่วนเศรษฐีปานก็มีฐานะดีขึ้นดังเดิม

           เมื่อท่านมีอายุได้ประมาณ 7 ขวบ พ.ศ. 2132 บิดามารดาของท่านจึงนำท่านไปฝากไว้เป็นศิษย์วัดเพื่อเล่าเรียนหนังสือ ที่วัดกุฎ๊หลวงหรือวัดดีหลวงในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้านท่าน ขณะนั้นมีท่านสมภารจวง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ เด็กชายปูเป็นเด็กที่หัวดีเรียนเก่งสามารถเล่าเรียนภาษาขอมและภาษาไทยได้ อย่างรวดเร็ว สมภารจวงได้บวชให้ท่านเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 15 ปี ตอนที่ท่านบวชเป็นสามเณรนี้เองบิดาของท่านจึงถวายลูกแก้วคืนให้แก่ท่านเป็น ลูกแก้วประจำตัวท่านต่อไป

           ด้วยความที่เป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ตลอดเวลาของท่าน ต่อมาท่านสมภารจวงได้นำไปฝากให้เล่าเรียนหนังสือที่สูงขึ้นสมัยนั้นเรียกว่า มูลบทบรรพกิจ ปัจบันก็คือเรียนนักธรรมนั่นเอง โดยนำไปฝากเรียนไว้กับสมเด็จพระชินเสน ซึ่งเป็นพระเถระชั้นสูงที่ส่งมาจากกรุงศรีอยุธยา ให้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดสีคูยังหรือวัดสีหยังในปัจจุบัน ห่างจากวัดดีหลวงไปทางเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ท่านได้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและจบหลักสูตรที่วัดสีคูยังนั้น หลังจากนั้นท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาต่อที่เมืองนครศรีธรรมราชเพื่อเรียน หนังสือให้สูงขึ้นโดยมาพำนักอยู่ที่วัดเสมาเมือง ซึ่งเป็นสำนักเรียนและมีสมเด็จพระมหาปิยะทัสสี เป็นเจ้าอาวาส และบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุครบกาลอุปสมบท ท่านได้ศึกษาวิชาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ จนมีความรู้และเป็นผู้ทรงอภิญญามาก และได้แสดงปาฏิหาริย์หลายครั้ง ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากสมเด็จพระเอกาทศรศในครั้งสุดท้ายใน ราชทินนามที่ สมเด็จเจ้าพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์ สุดท้ายเมื่อท่านมีอายุได้ 80 ปี ท่านได้กลับมาจำพรรษาที่วัดพะโคะ วัดบ้านเกิดของท่าน ต่อมาท่านได้สั่งเสียกับลูกศิษย์ว่าเมื่อท่านมรณภาพให้นำพระศพท่านไปไว้ที่ วัดช้างไห้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ต่อไปสถานที่ข้างหน้าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้คนมาเที่ยว

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

พระเครื่อง พระเกจิอาจารย์หลวงปู่ทวด

พระเกจิอาจารย์หลวงปู่ทวด



หลวงปู่ทวด หรือสมเด็จพะโคะ เกิดที่อำเภอสทิงพระ จ.สงขลา เมื่อท่านได้มรณะภาพ ท่านได้สั่งเสียลูกศิษย์ได้นำพระศพไปเก็บที่ วัดราษฎร์บูรณะ หรือ วัดช้างให้ โดยมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวดทั้งหลายล้วนแต่เป็นเกจิอาจารย์ของวัดช้างให้ โดยวัตถุมงคลที่สำคัญของหลวงปู่ทวด ได้แก่ พระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นเหยียบน้ำทะเลจืด เป็นพระเครื่องรุ่นแรกของหลวงปู่ทวด โดยจัดสร้างเมื่อ พ.ศ. 2497 และวัตถุมงคลของหลวงปู่ทวด ที่เก็บไว้ที่วัดพะโคะ จ.สงขลา คือ ลูกแก้ววิเศษ ที่พญางูใหญ่ได้คายไว้ให้ท่านตอนท่านเป็นทารก และรอยเท้าของท่านที่ท่านเหยียบประทับไว้บนแท่งหินบนหน้าผา ที่วัดพะโคะ